Warning: file_get_contents(https://api.facebook.com/restserver.php?method=links.getStats&urls=http://theerayut.com/index.php/ปัญหาผิวหนัง/15-ผื่นผิวหนังอักเสบ): failed to open stream: HTTP request failed! HTTP/1.1 400 Bad Request in /home/theerayut/domains/theerayut.com/public_html/plugins/content/al_facebook_comments/al_facebook_comments.php on line 516

ผื่นผิวหนังอักเสบ

คนไข้ที่มีปัญหาเรื่องผิวหนังอักเสบ (Eczema) จะมาด้วยอาการคัน เป็นผื่นแดง ร่วมกับตุ่มน้ำเล็กๆ (papulovesicular eruption) ที่คนไข้มักจะใช้คำว่าเป็นหัวใสๆ ขอบเขตของผื่นไม่ชัดเจน   ในคนที่มีอาการอักเสบมาก ก็จะมาด้วยผื่นดังกล่าวร่วมกับน้ำเหลืองไหล เป็นสะเก็ดและคราบน้ำเหลือง   แต่ถ้าเป็นเรื้อรังก็จะเป็นปื้นหนาๆ ที่เห็นลายของผิวหนังชัดเจนขึ้น ร่วมกับรอยเกา   นอกจากนี้ รายที่มีการติดเชื้อแทรกซ้อน ก็อาจจะเป็นตุ่มหนอง บวมแดง เจ็บ ร่วมด้วย
          
          สาเหตุของผิวหนังเสบ แยกออกได้เป็น สาเหตุภายนอก และสาเหตุภายใน ในกรณีที่เกิดจากสาเหตุภายนอก ก็ยังแยกออกเป็นผิวหนังอักเสบที่เกิดจากการระคายเคือง และที่เกิดจากการแพ้สัมผัส   การระคายเคืองของผิวหนังนั้น อาจเกิดจากสภาพแวดล้อม เช่นร้อน ฝุ่น และเหงื่อ หรือการที่ผิวแห้งจากสภาพแวดล้อม เป็นต้นว่าในช่วงหน้าหนาว อากาศแห้ง อยู่ห้องแอร์ อาบน้ำอุ่นจัด ฟอกสบู่มาก   ตำแหน่งที่เป็น ก็อาจจะพบได้ทั่วไป แล้วแต่สาเหตุของการระคายเคือง เช่นแถวหน้าผาก ซอกคอ แขนขา สีข้าง และหลัง  การระคายเคืองอีกลักษณะหนึ่งนั้น พบว่าเกิดจากงาน เช่น งานที่ต้องเปียกน้ำ แช่น้ำ เป็นต้นว่า ซักผ้า ล้างจาน สัมผัสกับสารระคายเคือง เช่น น้ำมัน ตัวทำละลายต่างๆ   ส่วนการแพ้สัมผัสนั้น เป็นเรื่องเฉพาะคนที่แพ้ (ขณะที่การระคายเคืองเป็นได้กับคนทุกคนที่สัมผัส หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองนาน หรือบ่อยครั้งพอ) ซึ่งการแพ้นั้น เมื่อถูกกระตุ้นให้เกิดขึ้น แล้ว  ก็จะเป็นไปตลอด เช่นคนที่แพ้โลหะ ไม่ว่าจะเป็นตุ้มหู สายสร้อย สายนาฬิกา แม้ว่าจะรักษาหายไปแล้ว ถ้าไปสัมผัสถูกอีก แม้จะไม่นาน ก็เพียงพอที่จะกระตุ้นให้แสดงอาการแพ้ออกมาได้อีก
 
          สาเหตุของผิวหนังอักเสบ ที่เกิดจากสาเหตุภายในนั้น  เป็นเรื่องที่เกิดจากภาวะภูมิไวเกิน ซึ่งคนไข้ที่เป็นจะต้องมีแนวโน้มที่จะเป็นอยู่แล้ว หรือาจจะมีปัจจัยทางกรรมพันธ์อยู่แล้วนั่นเอง   คนที่มีภาวะภูมิไวเกิน หมายถึงว่า มีความไวต่อการระคายเคือง และการกระตุ้น ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ซึ่งคนทั่วไปอยู่ได้โดยไม่เกิดโรค แต่คนที่มีภาวะภูมิไวเกิน ก็อาจจะมีอาการคัน เป็นผื่นขึ้นมาได้ ยกตัวอย่างเช่น ช่วงที่อากาศแห้ง หน้าหนาว คนทั่วไป ก็คงพอที่จะรู้สึกว่าผิวแห้งกว่าเดิมบ้างเท่านั้น แต่คนที่มีภาวะภูมิไวเกิน ก็จะมีอาการคันเป็นผื่นขึ้นมาได้   ซึ่งรูปแบบของผื่นที่เกิดขึ้นนั้น ก็มักจะมีแบบแผนจำเพาะที่ทำให้มีการจำแนกเรียกให้แตกต่างกันไป เช่นเป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) ซึ่งผู้ป่วยมักจะเป็นมาตั้งแต่เด็ก (ส่วนใหญ่จะก่อน 2 ขวบ) และมีน้อยมากที่เริ่มเป็นหลังจากอายุ 6 ขวบไปแล้ว และเมื่ออายุมากขึ้น อาการก็มักจะดีขึ้นเรื่อยๆ โดยช่วงที่เป็น ก็จะมีอาการผิวหนังอักเสบบริเวณข้อพับแขนขา ที่หน้า ในเด็กเล็กมักจะมีผื่นที่แก้ม และบริเวณหลังหูร่วมด้วย  ซึ่งเป็นแบบแผนเฉพาะโรคที่ทำให้รู้ได้ว่าเป็นโรคนี้ หรือในบางโรค ก็จะมาด้วยอาการผื่นคันที่เป็นเฉพาะมือ เท้า (Dyshidrotic eczema, Hands and feet eczema)  หรือเป็นผื่นรูปร่างกลมๆ ตามแขนขา (Nummular ecazema) หรือบางคนก็มีผื่นเป็นจุดๆ ห่างๆ (Follicular eczema)   สิ่งที่มักพบร่วมด้วยเสมอในคนไข้กลุ่มนี้ก็คือ การที่มีผิวแห้ง  และมีอาการกำเริบมากขึ้น เมื่อสภาพแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลง เช่น เปลี่ยนฤดู, มีการติดเชื้อ, และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ
 
          ในการรักษาผิวหนังอักเสบนั้น ในกรณีที่เกิดจากสาเหตุภายนอก จะต้องหลีกเลี่ยงสาเหตุ และเหตุปัจจัยที่ทำให้โรคแย่ลง   ในกรณีที่เป็นการแพ้สัมผัส จะต้องหลีกเลี่ยงอย่างเต็มที่ที่จะไม่สัมผัสกับสิ่งที่มีส่วนประกอบเป็นสารที่แพ้ สำหรับผิวหนังอักเสบที่เกิดจากสาเหตุภายในนั้น ต้องมีความเข้าใจว่า ปัญหาที่เป็นมักจะเป็นๆ หายๆ หายขาดยาก แต่บางโรคก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออายุมากขึ้น  คนไข้ที่เป็นจะต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคให้เป็นโดยดูแลสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ  ไม่เครียด ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารให้สมดุลย์โดยควรจะให้เป็นอาหารที่มาจากธรรมชาติโดยตรง ผ่านการแปรรูปน้อย สารอาหารบางอย่างจากผักสด ผลไม้ และไขมันจากปลา ก็มีหลักฐานแสดงให้เห็นว่าช่วยให้อาการของโรคดีขึ้น ในเรื่องของการรักษานั้น ขึ้นกับระยะของโรคที่มาพบแพทย์ ในระยะเฉียบพลันซึ่งมีน้ำเหลือง และคราบน้ำเหลืองนั้น การใช้น้ำเกลือชะแผลร่วมกับรับประทานยาเพื่อช่วยให้น้ำเหลืองแห้งเร็วขึ้นนั้นมีความจำเป็น ถ้ามีการติดเชื้อก็จำเป็นที่จะต้องรักษาร่วมไปด้วย   ในส่วนของยาทานั้น จะใช้ยาทาในกลุ่มสเตียรอยด์เพื่อลดการอักเสบของผิวหนังเป็นหลัก ซึ่งต้องเลือกให้เหมาะสมกับ ระยะของโรค ตำแหน่งที่เป็น อายุของคนไข้ เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงจากยา  นอกจากนี้การใช้ครีมเพื่อช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้นก็มีความจำเป็น แต่จะต้องหลีกเลี่ยงส่วนประกอบที่ไม่จำเป็นเช่นน้ำหอมซึ่งมักจะมีผสมมาด้วย ในกรณีที่เลือกใช้ครีมทาผิวแห้งทั่วไปที่ใช้กันในลักษณะของเครื่องสำอางค์ ในระยะที่ผิวหนังอักเสบที่เป็นเรื้อรัง การใช้ยาบางชนิดเพื่อทาให้ผิวลอกออก ก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นเร็ว และยาสามารถซึมผ่านเข้าไปได้ดีขึ้น  ทั้งนี้อาจจะร่วมกับเทคนิกบางอย่างเช่น การปิดคลุมหลังจากทายาด้วยแผ่นฟิล์มพลาสติก เพื่อช่วยเพิ่มการดูดซึมยา (เรียกว่า Occlusive dressing)


Copyright © 2014. All Rights Reserved.