การแก้ไขรอยจากสิว

เมื่อสิวหายแล้ว คนไข้ส่วนหนึ่งซึ่งปกตินานๆ จะเป็นสิวสักที ก็อาจจะหยุดยาทั้งหมดได้เลย (เรียกว่าเป็นทีรักษาที) แต่คนที่เป็นสิวอยู่เรื่อยๆ หรือสิวที่เป็น เป็นแบบที่เป็นมาก หรือต้องทานยาเพื่อรักษาให้ยุบลงไป คนไข้กลุ่มนี้อาจจำเป็นที่จะต้องทายาต่อไปเรื่อยๆ ในขณะที่ยังอยู่ในวัยที่เป็นสิวได้ง่าย ทั้งนี้เพราะไม่คุ้มที่จะปล่อยให้เป็นมากขึ้นมาอีก เนื่องจากทุกครั้งที่เป็นสิว ย่อมจะต้องทิ้งรอยแผลเป็นไว้บ้าง ไม่มากก็น้อย ซึ่งรอยแผลเป็นบางอย่าง ไม่สามารถแก้ไขให้กลับมาเป็นปกติได้ แต่ทั้งนี้จะมีการปรับยาทา ให้คงไว้เฉพาะยาในกลุ่มที่จะช่วยลดการอุดตันที่รูขุมขนเป็นหลัก เพื่อลดโอกาสที่สิวจะกลับมาใหม่
 
          การรักษารอยแผลเป็นจากสิว รอยแผลเป็นจากสิว อาจแบ่งได้เป็น รอยที่เป็นเรื่องของสี (รอยดำ หรือรอยแดง) และ รอยที่เป็นเรื่องของพื้นผิว (รอยบุ๋ม หรือรอยนูน) นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาว่าเป็นรอยใหม่ หรือรอยเก่าด้วย

Read more: การแก้ไขรอยจากสิว

การรักษาสิว

ในการรักษาสิว การวางเป้าหมายในการรักษาสิวในคนไข้แต่ละคนนั้น อาจจะแตกต่างกัน แต่โดยรวมทุกคนย่อมต้องการให้สิวของตนหายเร็วที่สุด และทิ้งร่องรอยไว้น้อยที่สุด หรือไม่มีเลยก็ยิ่งดี อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลักที่จะกำหนดแนวทางการรักษา จะขึ้นกับความรุนแรงและจำนวนของสิวที่เป็นเป็นหลัก อายุ อาชีพ และความคาดหวังต่อผลการรักษาของคนไข้เป็นปัจจัยประกอบ เป็นต้นว่าการรักษาสิวใน เด็กผู้ชายวัยเริ่มจะรุ่นมักเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมให้ได้ระดับไม่มีสิวเลย ทั้งนี้เป็นเพราะฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวัยรุ่น กิจกรรมที่มีมากในวัยนี้ ประกอบกับบางคนยังไม่สนใจในภาพลักษณ์ของตนในสายตาของเพื่อน (ซึ่งก็มักเป็นสิวเหมือนๆกัน) หรือเพศตรงข้าม
 ในทางกลับกัน วัยรุ่นบางคนที่เริ่มจะมีความสนใจในเพศตรงข้าม หรือคนในบางสายอาชีพ เช่น ดารา นักร้อง นักแสดง ประชาสัมพันธ์ หรือบุคคลที่ต้องอาศัยภาพลักษณ์ในการดำเนินอาชีพ การมีสิวแม้เพียงเล็กน้อย หรือสิวที่หายแล้ว กลับเป็นขึ้นมาใหม่ ก็อาจเป็นเรื่องที่ทำให้เครียด กังวลใจ และมีส่วนในการกำหนดแนวทางการรักษาของแพทย์ ซึ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสังเกตได้และเลือกวิธีการรักษาให้เหมาะสมกับคนไข้แต่ละคน อย่างไรก็ตามการพูดคุย กับแพทย์ถึงความคาดหวังต่อผลการรักษาก็ยังเป็นเรื่องจำเป็น เพราะในการรักษาโรคใดๆ ก็ตาม คนไข้ควรจะเป็นทีมเดียวกันกับผู้รักษาและต้องเปิดเผยแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

Read more: การรักษาสิว

การปฏิบัติตัวเมื่อเป็นสิว

 

          แม้ว่าปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เป็นสิว เราไม่สามารถควบคุมได้เช่นกรรมพันธ์ หรือการเป็นคนผิวมันก็ตาม แต่พฤติกรรมบางอย่างที่กระตุ้น หรือส่งเสริมให้เป็นสิว ก็มีความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยง เป็นต้นว่า การสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการ แตะจับซับเช็ด ลูบคลำ แกะเกา ขัดหน้า นวดหน้า เช็ดหน้าบ่อยๆ ล้างหน้าบ่อยๆ จะด้วยมือ ผ้าเช็ดหน้า หรือกระดาษทิชชู ก็ตาม ก็จะทำให้เป็นสิวง่ายขึ้น จนมีคำที่ใช้เรียกสิวในลักษณะนี้ว่า Acne mechanica ซึ่งมักจะพบบริเวณที่มีการสัมผัสบ่อย เช่นแถวขากรรไกร ขอบหน้า และอาจจะเป็นไม่เท่ากันของ 2 ด้านของใบหน้า นั่นเป็นเรื่องที่หนึ่ง ที่ต้องระมัดระวัง คือจะต้องพยายามไม่สัมผัสหน้าโดยไม่จำเป็น  หรือพูดได้ว่า ถ้าไม่ใช่เวลาทายา หรือล้างหน้าก็ไม่ควรสัมผัสถูกหน้า
 
           พฤติกรรมต่อมาก็คือ ความเครียด และการพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็มีส่วนทำให้เป็นสิว หรือทำให้สิวที่เป็นอยู่เป็นมากขึ้นได้ คำถามที่คนไข้มักจะถามบ่อยๆ ในเรื่องนี้ก็คือ ทำงานเป็นกะ หรือทำงานกลางคืน นอนหัวค่ำไม่ได้ เช่นนี้แล้วสิวคงไม่หาย ซึ่งก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นอย่างนั้น เพราะเป้าหมายในเรื่องนี้คือ การพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ว่าจะนอนกลางคืน หรือกลางวันก็แล้วแต่ การนอนกี่ชั่วโมงก็ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นที่สำคัญคือคุณภาพของการพักผ่อน ถ้าพักผ่อนพอ ก็ไม่ควรจะมีอาการเพลีย หรือง่วงเหงาหาวนอน และความเครียดในที่นี้ไม่ได้หมายเฉพาะ เครียดทางจิตใจเท่านั้น ความเครียดทางร่างกาย เช่น เจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ ก็เป็นความเครียดเช่นเดียวกัน ผิวหนังเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ถ้าสุขภาพกายหรือใจไม่ดีแล้ว ก็เป็นการยากที่ผิวหนังจะมีสุขภาพดีได้

Read more: การปฏิบัติตัวเมื่อเป็นสิว

สาเหตุและปัจจัยส่งเสริม

          สิวเกิดจากอะไร แน่นอนว่าปัจจัยทางกรรมพันธุ์ มีส่วนกำหนดให้บางคนที่มีประวัติสิวในครอบครัวมากๆ เป็นสิวได้มากกว่าคนอื่นๆ คนที่ผิวมันก็จะเป็นสิวมากกว่าคนที่ผิวแห้ง การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่นก่อนมีรอบเดือน หรือในช่วงตั้งครรภ์บางคนก็อาจจะเป็นสิวมากขึ้นกว่าปกติได้ สำหรับอาหาร ปัจจุบันถือว่าไม่มีข้อมูลยืนยันว่ามีความเกี่ยวข้องกับการเป็นสิว ไม่ว่าจะเป็น ช็อคโกแล็ต อาหารมันๆ อาหารเผ็ด แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับบางคนที่พบว่าเป็นสิวมากขึ้นเมื่อทานอาหารบางอย่างนั้น ก็อาจงดเว้นอาหารชนิดนั้นๆ ไปเป็นการเฉพาะคนก็ได้ สิวเกิดจากการแพ้หรือเปล่า โดยทั่วไป อาจมีปัจจัยหลายอย่างที่กระตุ้นให้คนที่มีแนวโน้มจะเป็นสิวอยู่แล้ว เป็นมากขึ้นได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเราไม่ถือว่าเป็นการแพ้
ดังนั้นที่คนไข้มักมีคำถามบ่อยๆ ว่าแพ้น้ำ แพ้สารเคมี แพ้ไอตะกั่วจากงานที่ทำ เลยทำให้เป็นสิวขึ้นมาหรือเปล่า จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม มียาและสภาพการณ์บางอย่างที่ทำให้เป็นสิวขึ้นมาได้ ซึ่งสิวลักษณะนี้มักจะมีลักษณะเฉพาะคือ สิวทุกเม็ดมักอยู่ในระยะเดียวกัน หรือ เป็น monomorphous eruption (ปกติ เวลาเป็นสิว มักจะมีหลายๆ ระยะปะปนกัน เช่น สิวอักเสบ สิวอุดตัน ถุงสิว รอยดำ รอยแผลเป็น เรียกว่าเป็น polymorphous eruption) ในตำแหน่งที่แปลกๆ เช่นที่แขน ขา ไหล่ และมักจะขึ้นมาพร้อมๆ กันทีเดียว แทนที่จะค่อยเป็นค่อยไป แบบสิวปกติ ลักษณะนี้เรียกว่า เป็น acneiform eruption ซึ่งมักเกิดจากจากจำพวกสเตียรอยด์ ในรูปของกินหรือทา, ยารักษาวัณโรค, ยารักษาอาการทางจิตประสาทบางชนิด แม้กระทั่งวิตามินบี ก็เคยมีรายงาน การสัมผัสกับสารจำพวก Iodide เช่นยาทาแผล หรือไอน้ำมันละอองน้ำมันก็สามารถทำให้เกิดผื่นคล้ายสิว ดังกล่าวได้
การดื่มนมกับสิว

Read more: สาเหตุและปัจจัยส่งเสริม

สิวอุดตัน

ช่วง 3 สัปดาห์มานี้ มีคำถาม และการที่คนไข้ระบุถึงสิวอุดตันมากผิดสังเกต เช่น ว่า มารักษาสิวอุดตันค่ะ, ที่เป็นนี่เป็นสิวอะไรคะ ใช่สิวอุดตันหรือเปล่าคะ, ยาที่ให้มานี่ สามารถรักษาสิวอุดตันได้หรือเปล่าคะ  มากจนผมประหลาดใจ

อยากบอกว่า การเป็นสิวนั้น มันเริ่มจากการอุดตันก่อนเสมอแหละครับ ที่เรียกว่า comdene นั่นเอง ซึ่งก็แยกย่อยไปอีกว่า เป็นสิวหัวเปิด หรือ black headed comedone, สิวหัวขาว หรือ white headed comedone  ทีนี้ ถ้าอุดตันแล้ว มีการอักเสบ หรือติดเชื้อตามมา ก็จะเป็นสิวอักเสบด้วย ถ้าการอักเสบอยู่ตื้น ก็จะเป็นเป็นตุ่มแดง และอาจมีหัวหนองอยู่ข้างบน ถ้าอยู่ลึก ก็คล้ำได้เป็นไตๆ และผิวข้างบนบวมแดง การเป็นสิวมักมีส่วนประกอบเหล่านี้รวมๆ กัน มากบ้างน้อยบ้าง อย่างที่ เขาบรรยายลักษณะสิวว่า เป็น polymorphous eruption of follicular lesions คือเป็นพยาธิสภาพที่เกิดขึ้นกับรูขุมขน ที่มีหน้าตาหลากหลาย (หมายถึงทั้งอุดตัน อักเสบ เป็นตุ่มหนอง เป้นไตๆ รวมทั้งรอยด้วย)

Read more: สิวอุดตัน


Copyright © 2014. All Rights Reserved.