คนไข้ใช้ยารักษาปัญหาสุขภาพบางอย่างอยู่ แต่ไม่ดีขึ้น หรือมีอาการเพิ่มมากขึ้น และเกิดคิดว่า เป็นเพราะแพ้ยาหรือเปล่า ตัวอย่างเช่น คนไข้ที่เป็นสิว เมื่อเริ่มรักษาสิวไปสักระยะหนึ่ง ก็ยังมีสิวขึ้นใหม่ หรือรู้สึกเป็นมากขึ้น แล้วสงสัยว่า นี่เป็นผลของยา หรืออาการแพ้ยาหรือเปล่า บางทีทำให้ลังเลที่จะใช้ หรือหยุดยาไปก็มี

เรื่องการแพ้ยา หรือผลข้างเคียงของยานั้น มักให้อาการคนละอย่างกับสิ่งที่กำลังรักษา เช่นว่า ถ้าเป็นหวัด กินยาลดน้ำมูก แล้วน้ำมูกยังมาก นี่ไม่ได้การแพ้ยา เพราะมันเป็นอาการเดียวกัน การแพ้ยาหรือผลข้างเคียงจากยา มักเป็นอาการอื่น เช่น มีผื่นขึ้น หรือง่วงซึม ปากคอแห้งในกรณีของยาลดน้ำมูก และไม่เป็นเหตุให้ควรลังเลใจในการใช้ยา หรือหยุดยาไป สิ่งที่ควรพิจารณาคือ นอกจากการใช้ยาเพื่อรักษาแล้ว การปฏิบ้ติตัวที่จะเป็นส่วนสนับสนุนการรักษาก็เป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้าเป็นหวัด กินยาแก้ไข้หวัดแล้ว แต่ไม่ได้พักผ่อน อาการก็ไม่ดีขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะการรักษานั้น ยังไม่ทันกับการดำเนินโรค ซึ่งอาจจะต้องปรับการรักษา หรือเป็นการดำเนินโรคไปตามระยะของมัน

สำหรับกรณีที่เกิดอาการอื่นขึ้นมา ซึ่งควรจะสงสัยว่าเป็นเรื่องของผลข้างเคียง หรืออาการแพ้ยา ถ้าพบว่า ใช้ยาถูกต้องตามที่ระบุไว้แล้วมีอาการดังกล่าวก็ควรหยุดยา และปรึกษาแพทย์โดยเร็ว

Tweet

Share

0